ขั้นตอนในการนำคนไทยเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2563 และแรงงานสนับสนุน (support staffs) กลับประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์

ขั้นตอนในการนำคนไทยเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2563 และแรงงานสนับสนุน (support staffs) กลับประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์

วันที่นำเข้าข้อมูล 29 ส.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 7,252 view

ขั้นตอนในการนำคนไทยเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2563

และแรงงานสนับสนุน (support staffs) กลับประเทศไทย หลังเสร็จสิ้นฤดูกาลเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์

************************************

 

1.  บริษัทผลไม้ฟินแลนด์ต้องให้คนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนลงทะเบียนคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย ตามแบบที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ กำหนด (ดาวน์โหลดได้บนเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ https://image.mfa.go.th/mfa/0/GaxRwJjWVH/1.pdf) และบริษัทผลไม้ฟินแลนด์จะต้องส่งแบบลงทะเบียนที่กรอกข้อมูลครบถ้วนแล้วไปให้สถานเอกอัครราชทูตฯ หรือส่งให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทางไปรษณีย์ โดยจะต้องส่งแบบลงทะเบียนดังกล่าวให้ถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ภายในวันที่ 1 กันยายน 2563

2.  บริษัทผลไม้ฟินแลนด์ต้องจัดหาเครื่องบินเช่าเหมาลำ เพื่อนำคนไทยที่บริษัทฯ นำมาเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนเดินทางกลับประเทศไทย ตามที่ผู้แทนบริษัทฯ ได้ลงนามยอมรับไว้แล้วใน Letter of Agent Authorised to Protect Thai Berry Pickers to Finland of the Season 2020 in the Situation of COVID-19 และต้องติดต่อสถานเอกอัครราชทูตฯ เพื่อขออนุญาตกับหน่วยงานในประเทศไทยให้เครื่องบินเช่าเหมาลำดังกล่าวเข้าประเทศไทย (ใช้เวลาในการขออนุญาตประมาณ 1 - 2 สัปดาห์)

3.  บริษัทผลไม้ฟินแลนด์ต้องแจ้งวันและเวลา ที่ต้องการจะนำคนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนกลับประเทศไทย ให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ภายในวันที่ 1 กันยายน 2563 หลังจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ จะพิจารณาและแจ้งวันและเวลา ที่บริษัทฯ จะสามารถนำคนไทยฯ เดินทางกลับประเทศไทยได้ตามลำดับ “ใครเดินทางมาถึงก่อน เดินทางกลับก่อน” ทั้งนี้ บริษัทผลไม้ฟินแลนด์ไม่ควรทำการเช่าเหมาลำเครื่องบินจนกว่าจะได้รับแจ้งจากสถานเอกอัครราชทูตฯ เกี่ยวกับวันและเวลาที่เครื่องบินเช่าเหมาลำของบริษัทฯ จะทำการบินได้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะอำนวยความสะดวกแก่บริษัทฯ ในการนำคนไทยกลับประเทศไทยไม่เกินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน คือ ในวันจันทร์และพฤหัสบดี หรือวันอังคารและวันศุกร์ ในเวลาราชการเท่านั้น โดยเริ่มจากวันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม 2563 ยกเว้นวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 และวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2563

4.  บริษัทผลไม้ป่าฟินแลนด์ต้องแจ้งยืนยันรายชื่อคนไทยที่มาเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนของบริษัทฯ ที่จะเดินทางกลับประเทศไทยกับเครื่องบินเช่าเหมาลำที่บริษัทฯ จัดให้ ให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบล่วงหน้า   ตามแบบที่สถานเอกอัครราชทูตฯ กำหนด (ดาวน์โหลดแบบดังกล่าวได้บนเว็บไซต์ของสถานเอกอัครราชทูตฯ https://image.mfa.go.th/mfa/0/GaxRwJjWVH/Berrypickers.xls) ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ภายในวันที่ 1 กันยายน 2563

5.  บริษัทผลไม้ฟินแลนด์จะต้องจัดให้คนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนที่บริษัทนำมา ซึ่งจะเดินทางกลับประเทศไทยเข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) 3 วัน ก่อนออกเดินทาง โดยวิธีการตรวจหาเชื้อแบบ RT-PCR พร้อมใบรับรองแพทย์ที่ต้องระบุด้วยว่า คนไทยคนดังกล่าวปลอดเชื้อ COVID-19 และมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) โดยใบรับรองแพทย์ดังกล่าวจะต้องออกให้        ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทาง      

6.  สถานเอกอัครราชทูตฯ จะออกใบรับรองการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (COE) ให้คนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยสถานเอกอัครราชทูตฯ จะเตรียมร่าง COE ไว้ และบริษัทผลไม้ฟินแลนด์จะต้องมารับร่าง COE ดังกล่าวที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ในวันที่ 14-15 กันยายน 2563 (ต้อง นัดหมายล่วงหน้า) เพื่อนำไปให้คนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนลงชื่อในร่าง COE และบริษัทฯ จะต้องส่งร่าง COE ที่คนไทยดังกล่าวลงนามแล้วให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ โดยเอกสารดังกล่าวจะต้องส่งถึงสถานเอกอัครราชทูตฯ ภายในวันที่ 23 กันยายน 2563 หลังจากนั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งให้บริษัทฯ มารับ COE ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ก่อนวันเดินทางกลับประเทศไทย โดยจะต้องมีใบแสดง ผลการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ของคนไทยมาแสดงด้วย    

7. ในวันเดินทางกลับ คนไทยเก็บผลไม้ป่าและแรงงานสนับสนุนแต่ละคนจะต้องถือเอกสารสำคัญได้แก่ หนังสือเดินทาง บัตรโดยสารเครื่องบิน ใบรับรองการเดินทางเข้าราชอาณาจักร (COE) ที่ออกโดยสถานเอกอัครราชทูตฯ        ใบแสดงผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 แบบ RT-PCR ที่เป็น “Negative” หรือ “Not detected” และใบรับรองแพทย์ที่ระบุผลการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่มีการระบุด้วยว่าบุคคลดังกล่าวมีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) ตลอดจนใบสำรองสถานที่ในการกักตัวเฝ้าระวังโรคแบบ Alternative State Quarantine (ASQ) ที่ประเทศไทย แสดงแก่เจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ณ เคาน์เตอร์ check-in ที่สนามบินนานาชาติกรุงเฮลซิงกิ ก่อนที่พนักงานสายการบินจะออก Boarding pass ให้เพื่อเดินทางไปขึ้นเครื่องบิน ทั้งนี้ ผู้โดยสารที่มีเอกสารไม่ครบจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบิน

หมายเหตุ  คนไทยฯ ที่มีผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 เป็น “Positive” หรือ “Detected” จะไม่ได้รับ Boarding pass และบริษัทผลไม้ฟินแลนด์จะต้องรีบติดต่อสถานพยาบาลโดยเร็วเพื่อนำบุคคลคนนั้นไปตรวจรักษา จนหายดีแล้ว จึงเดินทางกลับประเทศไทย โดยบริษัทผลไม้ฟินแลนด์จะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ รวมทั้งจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขออนุญาตขยายเวลาพำนัก (วีซ่า) ในฟินแลนด์ ค่าที่พัก และอาหารในฟินแลนด์สำหรับคนไทยคนดังกล่าว ตามข้อ 4 ของ Commitments of the Company which invite wild berry pickers from Thailand, Season 2020 ซึ่งเป็น Additional Requirements ของหนังสือแสดงเจตจำนง (LoI) เกี่ยวกับการนำคนต่างชาติไปเก็บผลไม้ป่าในฟินแลนด์ ฤดูกาลปี 2563

หากมีข้อสงสัยกรุณาติดต่อหมายเลขโทรศัพท์ 050 5903560 หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]

 

********************************

 

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

  21 สิงหาคม 2563