สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ขอแจ้งเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วันที่ 14 สิงหาคม 2563

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ขอแจ้งเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) วันที่ 14 สิงหาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ส.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 2,257 view

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ขอแจ้งเรื่องมาตรการป้องกันและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มเติมดังนี้

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2563 รัฐบาลฟินแลนด์ได้มีมติเกี่ยวกับการส่งเสริมให้ประชาชนสวมใส่อุปกรณ์ปิดหน้าหรือหน้ากากอนามัย และให้ทำงานทางไกล (remote work) เพื่อป้องกันการติดเชื้อและควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สรุปได้ดังนี้

1. รัฐบาลฟินแลนด์สนับสนุนให้ประชาชนสวมใส่อุปกรณ์ปิดหน้าหรือหน้ากากอนามัย ตามข้อเสนอของสำนักงานสุขภาพและสวัสดิการฟินแลนด์ (Finnish Institute for Health and Welfare - THL) เนื่องจากการสวมใส่อุปกรณ์ปิดหน้าหรือหน้ากากอนามัยที่เหมาะสม น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและลดการแพร่กระจายของเชื้อ COVID-19 โดยประชาชนจะต้องหาอุปกรณ์ปิดหน้าหรือหาหน้ากากอนามัยใส่เอง อย่างไรก็ดี เทศบาล/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะต้องจัดหาอุปกรณ์ปิดหน้าหรือหน้ากากอนามัยให้กับผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงซึ่งอยู่ในเขตของตนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย

2. รัฐบาลฟินแลนด์ได้หารือเกี่ยวกับการให้ประชาชนทำงานทางไกลตามข้อเสนอของกระทรวงการคลังและกระทรวงกิจการสังคมและสาธารณสุข และเห็นว่าโดยที่การระบาดของเชื้อ COVID-19 มีเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ รัฐบาลบาลจึงแนะนำให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นทำงานทางไกลเท่าที่สภาพงานจะเอื้อให้ทำได้ และนายจ้างควรส่งเสริมการบริหารจัดการการทำงานเพื่อให้ลูกจ้างในที่ทำงานอยู่ในระยะที่ใกล้กันน้อยที่สุด รวมทั้งเพื่อลดความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อ COVID-19 ในที่ทำงาน และโดยที่การระบาดของเชื้อ COVID-19 ในภาพรวมยังเพิ่มขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะมีมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อแล้ว ดังนั้น เจ้าหน้าที่/ลูกจ้างของภาครัฐจึงควรทำงานทางไกลเท่าที่สภาพงานจะเอื้อให้ทำได้ และรัฐบาลแนะนำให้ลูกจ้างในภาคเอกชนทำงานทางไกลด้วยเช่นกัน

3. รัฐบาลฟินแลนด์รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ บริเวณจุดผ่านแดน ตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อที่หน่วยงานต่าง ๆ ดำเนินการเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อ COVID-19 ในฟินแลนด์ที่จะเกิดจากผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง (high-risk areas) ทั้งนี้ การตรวจหาเชื้อ COVID-19 (การตรวจสุขภาพ) จะทำตามความสมัครใจของผู้เดินทาง ตามมาตรา 14 มาตรา 15 หรือมาตรา 16 ของกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ อย่างไรก็ดี หากบุคคลดังกล่าวไม่สมัครใจที่จะตรวจหาเชื้อ COVID-19 แล้ว เทศบาลหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจมีคำสั่งให้บุคคลดังกล่าวเข้ารับการตรวจหาเชื้อได้ อาทิ ในกรณีที่มีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินลำเดียวกันมีอาการป่วย

4. เทศบาล/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นอาจสั่งให้ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงกักตัวเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วัน หากมีเหตุที่ทำให้สงสัยว่าบุคคลดังกล่าวมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ COVID-19 อาทิ ในกรณีที่มีผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินลำเดียวกันมีอาการป่วย โดยเจ้าหน้าที่การแพทย์ที่รับผิดชอบด้านโรคติดต่อของเทศบาล/องค์กรส่วนท้องถิ่นหรือที่ประจำอยู่ในโรงพยาบาลของเทศบาล/องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าควรมีการกักตัวเฝ้าระวังโรคหรือไม่

5. พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในขณะนี้ คือ ประเทศที่ฟินแลนด์กำหนดว่า ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศนั้น ๆ จะต้องปฏิบัติตามมาตรการควบคุมชายแดนของฟินแลนด์ในช่วงการระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเหล่านี้จะต้องแยกตัวเองเพื่อเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วัน โดยหลักเกณฑ์ที่ฟินแลนด์ใช้กำหนดว่าประเทศใดจะเป็นประเทศที่มีความเสี่ยงสูงคือ ประเทศดังกล่าวจะต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อ 8 คนขึ้นไปต่อจำนวนประชากร 100,000 คน ในระยะเวลา 14 วันก่อนหน้า ซึ่งฟินแลนด์จะพิจารณาปรับรายชื่อประเทศดังกล่าวเป็นประจำ

ทั้งนี้ สามารถอ่านข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของรัฐบาลฟินแลนด์ ที่ https://valtioneuvosto.fi/…/hallitus-teki-periaatepaatokset…

Hallitus teki periaatepäätökset maskisuosituksesta ja etätyöstä - - Valtioneuvosto
Hallitus käsitteli neuvottelussaan Terveyden ja hyvinvoinnin laitoksen ehdotusta suositukseksi kansalaisten kasvomaskien käytöstä (liite). Valtioneuvosto puoltaa periaatepäätöksellään THL:n kasvomaskisuositusta.
valtioneuvosto.fi

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ

14 สิงหาคม 2563