สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ในฐานะประธานคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงเฮลซิงกิ จัดพิธีเชิญธงอาเซียนในวันครบรอบการสถาปนาอาเซียน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ในฐานะประธานคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงเฮลซิงกิ จัดพิธีเชิญธงอาเซียนในวันครบรอบการสถาปนาอาเซียน เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560

วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ส.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,065 view

สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ
ในฐานะประธานคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงเฮลซิงกิ
จัดพิธีเชิญธงอาเซียนในวันครบรอบการสถาปนาอาเซียน
เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560

              เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 นายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ได้เป็นประธานในพิธีเชิญธงอาเซียน เนื่องในวันครบรอบการสถาปนาอาเซียน ณ ที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตอินโดนีเซีย ประจำกรุงเฮลซิงกิ โดยมีเอกอัครราชทูตประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม เข้าร่วม พร้อมด้วย เอกอัครราชทูต อุปทูตฯ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตของประเทศคู่เจรจาอาเซียน เช่น จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินเดีย รัสเซีย นอร์เวย์
และบางประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป ได้แก่ ออสเตรีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ เยอรมนี บัลแกเรีย โปรตุเกส อิตาลี สโลวัก
สหราชอาณาจักร โดยมีอธิบดีกรมอเมริกาและเอเชีย กระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ รวมประมาณ 50 คนเข้าร่วมพิธีดังกล่าวด้วย 
 
               ในโอกาสดังกล่าว ออท. นพพรฯ  ได้กล่าวสุนทรพจน์เพื่อเป็นการรำลึกถึงการครบรอบ 50 ปีการสถาปนาอาเซียน โดยได้ย้ำถึงเจตนารมณ์การก่อตั้งอาเซียนของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสมาชิกผู้ก่อตั้งอาเซียน 5 ประเทศ ในปฏิญญากรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2510 ในอันที่จะส่งเสริมความร่วมมือในระดับภูมิภาค เพื่อเสริมสร้างความมั่นคง เสถียรภาพ และผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน  อาเซียนได้มีพัฒนาการมาตลอด 50 ปี จนได้จัดตั้งเป็นประชาคมอาเซียนเมื่อ 2558 ซึ่งจะทำให้อาเซียนมีความเป็นปึกแผ่นกันมากขึ้น ทั้งในแง่เป้าหมาย และอัตลักษณ์  ผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนได้กำหนดทิศทางในอนาคตไว้ในวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียน 2025 ซึ่งมีเป้าหมายให้อาเซียนเป็นองค์กรที่เน้นการให้ประชาชนเป็นแกนกลาง และมีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย รวมถึงมุ่งเน้นการแก้ประเด็นปัญหาเกี่ยวเนื่องกับความมั่นคงของมนุษย์ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สิทธิมนุษยชน การศึกษา และบริการสาธารณสุข นอกจากนี้ ยังให้อาเซียนมีบทบาทมากขึ้นในการแก้ไขประเด็นปัญหาระหว่างประเทศ เพื่อธำรงไว้ซึ่งเสถียรภาพ ความมั่นคง สันติสุข และความมั่งคั่งของโลก ทั้งนี้ โดยอาเซียนหวังว่าจะได้รับความร่วมมืออย่างดีจากประเทศคู่เจรจาและมิตรประเทศ ต่อไป