วันที่นำเข้าข้อมูล 17 ก.ย. 2562
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 10 มี.ค. 2566
(สำหรับคนไทยและนักเรียนไทย ที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศ)
ชายที่มีสัญชาติไทยทุกคนมีหน้าที่รับราชการทหารด้วยตนเองทุกคน (ตามมาตรา 7 ของ พระราชบัญญัติรับราชการทหาร พ.ศ. 2497) เมื่ออายุย่างเข้า 18 ปี ต้องไปแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน เมื่ออายุครบ 21 ปี ต้องเข้ารับการเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อเป็นทหารตามภูมิลำเนาที่ตนสังกัดอยู่ อย่างไรก็ตาม สำหรับคนไทยและนักเรียนไทยที่กำลังศึกษาอยู่ในต่างประเทศอาจขอผ่อนผันการตรวจเลือกทหารได้
ชายไทยทุกคนเมื่ออายุ 17 ปีบริบูรณ์ (ย่างเข้า 18 ปี) ต้องไปลงบัญชีทหารกองเกินด้วยตนเอง ที่ภูมิลำเนาที่ตนสังกัดอยู่ ในกรณีที่ไม่สามารถไปทำได้ด้วยตนเอง สามารถให้ผู้อื่นที่บรรลุนิติภาวะไปแจ้งแทน ถ้าไม่ไปหรือไม่มีผู้ไปแจ้งแทนถือว่า ผู้นั้นหลีกเลี่ยงขัดขืนไม่ไปลงบัญชีทหารกองเกิน และเมื่อลงบัญชีทหารกองเกินเสร็จแล้วจะได้ใบสำคัญทหารกองเกิน (แบบ สด.9) ไว้เป็นหลักฐานโดยนำหลักฐานไปลงบัญชีทหาร
หลักฐานสำหรับการยื่นใบแสดงตนเพื่อลงบัญชีทหารกองเกิน
1. บัตรประจำตัวประชาชน
2. สำเนาทะเบียนบ้านที่มีชื่อของตนเองและฉบับที่มีชื่อของบิดา/มารดา/ผู้ปกครองแล้วแต่กรณี
3. สูติบัตร (ถ้ามี)
4. หลักฐานอื่นๆ เช่น การเปลี่ยนชื่อตัว สกุล การจดทะเบียนรับรองบุตร
เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ ต้องเข้ารับการตรวจเลือกเพื่อเป็นทหารตามภูมิลำเนาที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้าน สำหรับผู้ที่กำลังอยู่ในระหว่างการเรียนหรือการศึกษา สามารถขอผ่อนผันเข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารได้ โดยยื่นขอต่อสัสดีท้องที่ที่ตนมีชื่อในทะเบียนบ้านด้วยตนเอง หรือมอบอำนาจให้ผู้อื่นที่บรรลุนิติภาวะไปยื่นแทนได้ เหตุผลอื่นๆ ที่นอกเหนือไปจากการศึกษาเล่าเรียนไม่สามารถขอผ่อนผันเข้ารับการตรวจเลือกเข้ารับราชการทหารได้
การขอหนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ เพื่อใช้ผ่อนผันการเกณฑ์ทหาร
เอกสารประกอบการยื่นคำร้อง
1. หนังสือรับรองสถานะการเป็นนักศึกษาฉบับภาษาอังกฤษจากสถานศึกษาที่ผู้ขอผ่อนผันกำลังเรียนอยู่ โดยต้องระบุรายละเอียดต่อไปนี้
หมายเหตุ
- กรณีที่มาติดต่อด้วยตนเองวันจันทร์-วันศุกร์ ระหว่างเวลา 09.00-12.00 น. รับเอกสารได้ภายในเวลา 4 วันทำการ
- ยื่นคำร้องทางไปรษณีย์ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ กรุณาแนบซองสำหรับส่งเอกสารกลับพร้อมติดแสตมป์
บิดา มารดาหรือผู้ปกครองจะต้องยื่นคำร้องขอผ่อนผันต่อนายอำเภอที่มีภูมิลำเนา (อำเภอที่ได้ลงบัญชีทหารกองเกินไว้แล้ว) พร้อมหลักฐานต่อไปนี้
1. หนังสือรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตฯ
2. หนังสือรับรองสถานะการเป็นนักศึกษาจากสถานศึกษา
3. สำเนาใบสำคัญทหารกองเกิน (แบบสด.9)
4. สำเนาหมายเรียกเข้ารับราชการทหารฯ (แบบสด.35) ถ้ามี
5. สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ด้านหน้าและหลัง) พร้อมเซ็นต์ชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง
การผ่อนผันจะสิ้นสุดเมื่อเจ้าตัวสำเร็จการศึกษาและเดินทางกลับมาประเทศไทยซึ่งเจ้าตัวจะต้องไปแจ้งด้วยตัวเองต่อนายอำเภอที่ตนมีภูมิลำเนา
ยื่นคำร้องเพื่อขอรับบริการด้านกงสุล นัดหมายเท่านั้น