เอกอัครราชทูตประจำเอสโตเนีย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเฮลซิงกิ ยื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย

เอกอัครราชทูตประจำเอสโตเนีย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเฮลซิงกิ ยื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย

วันที่นำเข้าข้อมูล 18 ก.ค. 2560

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565

| 1,361 view

เอกอัครราชทูตประจำเอสโตเนีย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเฮลซิงกิ

ยื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย

***************************************************

 

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 นายนพพร อัจฉริยวนิช เอกอัครราชทูตประจำเอสโตเนีย ถิ่นพำนัก ณ กรุงเฮลซิงกิ ได้ยื่นพระราชสาส์นตราตั้งต่อนาง Kersti Kaljulaid ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐเอสโตเนีย หลังการยื่น พระราชสาส์นตราตั้งแล้ว เอกอัครราชทูตนพพรฯ ได้สนทนากับประธานาธิบดี Kaljulaid เป็นเวลาประมาณ 25 นาที

ประธานาธิบดี Kaljulaid ได้กล่าวต้อนรับเอกอัครราชทูตนพพรฯ ที่ได้รับการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตไทยประจำเอสโตเนีย และกล่าวว่า ปัจจุบันชาวเอสโตเนียเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศไทยเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังมีช่องทางที่จะส่งเสริมความร่วมมือกันในสาขาอื่น ๆ โดยเฉพาะด้านการค้าและการลงทุน ประธานาธิบดี Kaljulaid กล่าวว่าเอสโตเนียประสบความสำเร็จในการพัฒนาประเทศให้เป็นสังคมดิจิทัล (digital society) ทำให้พลเมืองเอสโตเนียสามารถเข้าถึงบริการภาครัฐได้สะดวกมากยิ่งขึ้น และช่วยลดภาระงบประมาณรายจ่ายแผ่นดิน เอสโตเนียมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือกับประเทศไทย ในการพัฒนาประเทศให้เป็นสังคมดิจิทัล

เอกอัครราชทูตนพพรฯ กล่าวขอบคุณประธานาธิบดี Kaljulaid ที่ให้ตนเข้ายื่นพระราชสาส์นตราตั้ง และได้แสดงความยินดีที่เอสโตเนียเป็นประธานสหภาพยุโรปช่วงเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2560 และกล่าวสรุปพัฒนาการทางการเมืองและสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยให้ประธานาธิบดี Kaljulaid ทราบ พร้อมทั้งได้ขอความร่วมมือเอสโตเนียในฐานะประธานแห่งสหภาพยุโรปช่วยผลักดันให้สหภาพยุโรปแก้ไขข้อมติเกี่ยวกับประเทศไทยด้วย

 

***************************