รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (COVID-19) ในฟินแลนด์ วันที่ 17 มีนาคม 2563

รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (COVID-19) ในฟินแลนด์ วันที่ 17 มีนาคม 2563

วันที่นำเข้าข้อมูล 17 มี.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 919 view
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ ขอรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส (COVID-19) ในฟินแลนด์ และมาตรการของฟินแลนด์ในป้องกันควบคุมการระบาดของเชื้อ COVID-19 เพิ่มเติมดังนี้
 
เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 เวลา 17.00 น. นายกรัฐมนตรีฟินแลนด์ได้แถลงข่าวว่า รัฐบาลฟินแลนด์ โดยความเห็นชอบของประธานาธิบดี ได้ประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” เพื่อป้องกันและควบคุมการระบาดของ COVID-19 ในฟินแลนด์ รัฐบาลจะออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อคุ้มครองประชาชน สังคม และระบบเศรษฐกิจของประเทศ โดยรัฐบาลจะเสนอพระราชกฤษฎีกาเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติอำนาจในสถานการณ์ฉุกเฉิน ต่อรัฐสภาในวันที่ 17 มีนาคม 2563 ทั้งนี้ รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐจะดำเนินมาตรการดังกล่าว โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติอำนาจในสถานการณ์ฉุกเฉิน พระราชบัญญัติโรคติดต่อ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมาตรการดังกล่าวจะบังคับใช้จนถึงวันที่ 13 เมษายน 2563 ได้แก่
 
         1.  ให้สถานเลี้ยงเด็กเล็กเปิดทำการเพื่อดูแลบุตรของพ่อแม่ที่เป็นลูกจ้างที่จำเป็นต้องทำงานในภาคส่วนสำคัญในสังคม
 
         2.  ปิดสถานศึกษาทุกระดับโดยไม่มีการเรียนการสอนสอนในชั้นเรียน ยกเว้นระดับประถมศึกษาปีที่ 1-3 ที่พ่อแม่ต้องทำงาน โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และให้สถานศึกษาที่ปิดทำการเรียนการสอน ใช้วิธีการสอนทางไกลผ่านอุปกรณ์ดิจิทัลและวิธีการเรียนรู้ด้วยตนเอง
 
         3.  ให้จัดการสอบไล่ชั้นระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Grade 12) ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 ตามกำหนดการเดิม โดยปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข
 
         4.  ห้ามประชาชนรวมกลุ่มกันเกิน 10 คน และแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการใช้เวลาในสถานที่สาธารณะโดยไม่จำเป็น
 
         5.  ปิดพิพิธภัณฑ์ โรงละคร โรงอุปรากร สถานที่ทางวัฒนธรรม ห้องสมุด หอจดหมายเหตุแห่งชาติ สระว่ายน้ำ และสนามกีฬา ศูนย์เยาวชน สโมสร ศูนย์ประชุม ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ ทุกแห่งทั้งของส่วนกลางของเทศบาล
 
         6.  ห้ามเข้าเยี่ยมศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและศูนย์ดูแลคนกลุ่มเสี่ยง รวมถึงสถานีอนามัยและโรงพยาบาล ยกเว้นญาติของบุคคลที่อยู่ในสถานที่เหล่านั้น ซึ่งจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี
 
         7.  ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภาครัฐทำงานที่บ้าน หากลักษณะงานเอื้อให้ทำได้
 
         8.  ห้ามผู้ที่กำลังกักตัวเองสัมผัสผู้สูงอายุที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป
 
         9.  รัฐบาลจะเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม โดยจะะระดมภาคเอกชนที่มีความสมารถด้านนี้มาช่วยงานภาครัฐด้วยหากจำเป็น
 
         10.  รัฐบาลจะเพิ่มขีดความสามารถในการตรวจหาเชื้อ COVID-19
 
         11.  รัฐบาลจะกำหนดข้อยกเว้นเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติชั่วโมงการทำงานและพระราชบัญญัติวันหยุดประจำปี ทั้งในส่วนของการทำงานของภาคราชการและภาคเอกชน ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก
 
         12.  รัฐบาลจะมีมาตรการกำหนดให้บุคลากรที่มีวิชาชีพต่าง ๆ  โดยเฉพาะสาขาสาธารณสุขและสวัสดิการสังคม และของหน่วยงานความมั่นคง ต้องทำงานและปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่มีความจำเป็น รัฐบาลอาจกำหนดข้อจำกัดในการเดินทางของประชาชน เพื่อป้องกันชีวิตและสุขภาพของประชาชนจากภัยร้ายแรง
 
         13.  เพื่อธำรงรักษาประโยชน์ด้านการสาธารณสุขและความมั่นคงทางสาธารณสุข รัฐบาลจะมีมาตรการปิดชายแดนฟินแลนด์ โดยจะระงับการเดินทางเข้าฟินแลนด์ของผู้เดินทางในโอกาสแรก อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าวจะไม่ใช้กับคนฟินแลนด์ที่จะเดินทางกลับประเทศและผู้ที่ได้รับสิทธิให้พำนักในฟินแลนด์ นอกจากนี้ คนฟินแลนด์และผู้ที่ได้รับสิทธิให้พำนักในฟินแลนด์จะต้องไม่เดินทางไปต่างประเทศ ส่วนนักท่องเที่ยวฟินแลนด์ที่อยู่ต่างประเทศควรต้องเดินทางกลับฟินแลนด์โดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ดี รัฐบาลจะอนุญาตให้มีการเดินทางข้ามแดนบริเวณชายแดนด้านเหนือและด้านตะวันตกเพื่อการทำงานและการเข้าถึงบริการต่าง ๆ ที่จำเป็น ส่วนการขนส่งสินค้ายังคงสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติ
 
         14.  คนฟินแลนด์และผู้ที่ได้รับสิทธิให้พำนักในฟินแลนด์ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะต้องอยู่ในสถานที่กักตัวเองเป็นเวลา 2 สัปดาห์ และผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศจะต้องตกลงกับนายจ้างเกี่ยวกับวันที่จะกลับเข้าทำงานหลังจากที่ได้กักตัวครบ 2 สัปดาห์ 
 
         15.  กองบัญชาการทหารฟินแลนด์ขอให้ทุกคนมั่นใจว่า กองบัญชาการทหารฟินแลนด์จะยังคงปฏิบัติการต่าง ๆ ในส่วนของตนต่อไป และได้เตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ทุกสถานการณ์ ส่วนหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจะเตรียมพร้อมเพื่อให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ตามที่จำเป็น
 
 
 
                                                                                                  สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ
 
                                                                                                               17 มีนาคม 2563