วันที่นำเข้าข้อมูล 1 ก.ค. 2563
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 29 พ.ย. 2565
ตามที่สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้มีประกาศลงวันที่ 29 มิถุนายน 2563 โดยข้อ 2 ของประกาศฉบับดังกล่าวระบุว่า อากาศยานขนส่งคนโดยสารที่จะทำการบินผ่าน บินเข้า/ออกนอกราชอาณาจักร หรือขึ้น/ลงในท่าอากาศยานในราชอาณาจักรที่ให้บริการการบินระหว่างประเทศ จะได้รับอนุญาตจาก กพท. เมื่อผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้นเป็นบุคคลประเภทต่าง ๆ (ตามที่ระบุไว้ในประกาศ) ซึ่งรวมถึงผู้มีสัญชาติไทย นั้น และประกาศดังกล่าว ข้อ 3 ระบุว่า อากาศยานและผู้โดยสารหรือผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรตามข้อ 2 จะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข เงื่อนเวลา และหลักเกณฑ์ของผู้มีอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง กฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศ และกฎหมายว่าด้วยการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลบังคับใช้อยู่ เพื่อการป้องกันโรคและจัดระเบียบจำนวนคนที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรให้สอดคล้องกับความสามารถของเจ้าหน้าที่ในการคัดกรองและการจัดสถานที่ไว้กักกัน (quarantine)
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป นั้น สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้สอบถามกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทยของคนไทยต่างประเทศในช่วงการระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 แล้ว และขอเรียนดังนี้
คนไทยในฟินแลนด์และเอสโตเนียที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 จะต้องลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเฮลซิงกิ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทยกับอากาศยานขนส่งคนโดยสารที่ได้รับอนุญาตจาก กพท. โดยเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ทุกคนจะต้องเข้ารับการกักตัวเฝ้าระวังโรคเป็นเวลา 14 วันในสถานที่ที่รัฐจัดให้ (State Quarantine) ทุกกรณี อย่างไรก็ดี ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศไทยประสงค์จะเข้ากักตัวเฝ้าระวังโรคในโรงแรมที่ผ่านการตรวจประเมินของรัฐ โดยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง (Alternative State Quarantine) สามารถตรวจสอบรายชื่อโรงแรมที่ผ่านการตรวจประเมินได้ที่ http://www.hsscovid.com โดยบุคคลดังกล่าวจะต้องติดต่อโรงแรมที่ประสงค์เพื่อสำรองห้องกักตัวเฝ้าระวังโรคด้วยตนเอง
ขั้นตอนการลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ มีดังนี้
1. ขั้นตอนก่อนได้รับอนุญาตให้เดินทางขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทย
1.1 ผู้ที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย สามารถลงทะเบียนกับสถานเอกอัครราชทูตฯ โดยกรอกแบบลงทะเบียน และส่งแบบลงทะเบียนดังกล่าวไปที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (อีเมล์) [email protected] พร้อมสำเนาหนังสือเดินทาง และระบุเหตุผล รวมทั้งกรอกแบบฟอร์มขอกลับไทย ดาวน์โหลดที่นี่ ความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องกลับประเทศไทย
1.2 กรอกแบบรับทราบ ยินยอม และยอมรับเงื่อนไขการกักตัว 14 วัน และถ่ายสำเนาหรือถ่ายรูปส่งให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ส่วนฉบับที่ลงชื่อเก็บไว้แสดงกับเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในประเทศต้นทางและเจ้าหน้าที่สายการบินในวันเดินทาง ดาวน์โหลดที่นี่
1.3 เมื่อสถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับแจ้งจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับรายละเอียดเที่ยวบินที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยและจำนวนคนไทยในฟินแลนด์และเอสโตเนียที่ได้รับจัดสรรให้เดินทางกับเที่ยวบินดังกล่าวแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งรายละเอียดให้คนไทยในฟินแลนด์และเอสโตเนียที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทยทราบ
หมายเหตุ สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่ใช่หน่วยงานที่มีอำนาจอนุญาตให้สายการบินใด ๆ ทำการบินเข้าประเทศไทย รวมทั้งไม่มีอำนาจกำหนดจำนวนคนไทยที่จะเดินทางกลับประเทศไทย และไม่มีอำนาจกำหนดวันที่จะให้คนไทยเดินทางกลับประเทศไทย ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศในยุโรปที่เป็นประเทศต้นทาง (ประเทศที่สายการบินจะทำการบินเข้าประเทศไทย) จะแจ้งเรื่องดังกล่าวให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ทราบ และจะพิจารณาให้คนไทยดังกล่าวเดินทางกลับประเทศตามความจำเป็นเร่งด่วนเป็นรายกรณีไป ส่วนราคาบัตรโดยสารเครื่องบิน (ขาเดียว) จะทราบเมื่อสายการบินนั้น ๆ เปิดให้ซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินแล้วเท่านั้น)
1.4 ผู้เดินทางต้องวางแผนการเดินทางและหาบัตรโดยสารจากกรุงเฮลซิงกิไปยังสนามบินในประเทศต้นทางในยุโรปเพื่อขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยด้วยตนเอง อาทิ เดินทางไปขึ้นเครื่องกลับประเทศไทยกับสายการบิน Lufthansa ที่นครแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี หรือเดินทางไปขึ้นเครื่องกับสายการบิน Royal Dutch Airlines (KLM) ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอแลนด์ ทั้งนี้ โปรดอย่าซื้อบัตรโดยสารเครื่องบินดังกล่าวจนกว่าจะได้รับการยืนยันจากสถานเอกอัครราชทูตฯ
2. ขั้นตอนหลังจากที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทย
2.1 สถานเอกอัครราชทูตฯ จะแจ้งยืนยันกับผู้ที่ลงทะเบียนขอเดินทางกลับประเทศไทยว่า บุคคลดังกล่าวได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับประเทศไทยในวันที่เท่าใด กับสายการบินใด และออกเดินทางจากประเทศใดในยุโรป พร้อมกันนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะส่งข้อมูลการติดต่อกับสายการบินดังกล่าว เพื่อให้ผู้เดินทางซื้อบัตรโดยสารกับสายการบินดังกล่าวโดยตรง (สายการบินจะรับชำระค่าบัตรโดยสารเครื่องบินด้วยบัตรเครดิตเท่านั้น) และหลังจากที่ผู้เดินทางชำระค่าบัตรโดยสารเรียบร้อยแล้ว ให้ผู้เดินทางส่งสำเนาบัตรโดยสารเครื่องบินให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]
2.2 เมื่อดำเนินการตามข้อ 2.1 แล้ว ให้ผู้เดินทางดำเนินการดังนี้
2.2.1 ขอใบรับรองจากแพทย์ (ภาษาอังกฤษเท่านั้น) ที่ยืนยันว่า ผู้เดินทางมีสุขภาพเหมาะสมกับการเดินทางทางอากาศ (Fit to Fly) โดยแพทย์ผู้ตรวจต้องระบุในใบรับรองแพทย์ดังกล่าวด้วยว่า Fit to Fly และใบรับรองแพทย์ดังกล่าวต้องมีอายุไม่เกิน 72 ชม. ก่อนเวลาเดินทาง และถ่ายสำเนาหรือถ่ายรูปส่งให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected]
2.2.2 โปรดกรอกแบบ ต.8 หรือลงทะเบียนผ่านระบบ phone application ของบริษัทท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (AOT) ที่ https://aot-app.kdlab.ai/ และเมื่อเดินทางถึงประเทศไทยแล้ว ผู้เดินทางต้องยื่นแบบ ต.8 ก่อนเข้าประเทศ
2.3 เมื่อเอกสารทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฯ จะออกเอกสารรับรองการเดินทางให้ผู้เดินทางลงชื่อในเอกสาร หลังจากนั้น ให้ผู้เดินทางถ่ายสำเนาหรือถ่ายรูปเอกสารดังกล่าว และส่งให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] ส่วนฉบับที่ลงชื่อเก็บไว้แสดงกับเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในประเทศต้นทางและเจ้าหน้าที่สายการบินในวันเดินทาง
ทั้งนี้ หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเดินทางกลับประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ [email protected] หรือหมายเลขโทรศัพท์ +358 9 612 26400 และหมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉิน +358 50 312 0574 (เฉพาะวันหยุดราชการ)
ยื่นคำร้องเพื่อขอรับบริการด้านกงสุล นัดหมายเท่านั้น