UPDATE ล่าสุด ข้อมูลสำหรับคนไทยที่ประสงค์เดินทางกลับประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 

• ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2564 
  • ลดวันกักตัวสำหรับผู้ที่เดินทางเข้าไทย จาก 14 วัน เป็น 10 วัน (สำหรับผู้ที่ยังไม่ฉีดวัคซีน หรือฉีดวัคซีนไม่ครบโดส) และ 7 วัน สำหรับผู้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน
  • ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยภายใต้โครงการ Phuket Sandbox / Samui Plus ลดจำนวนวันที่ต้องอยู่ในพื้นที่จาก 14 เป็น 7 วัน
  • เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ไม่ได้รับวัคซีน และเดินทางเข้าไทยพร้อมผู้ปกครอง ให้กักตัวเป็นเวลาเท่ากับผู้ปกครอง กล่าวคือ หากผู้ปกครองฉีดวัคซีนครบ ให้เด็กกักตัว 7 วัน
• ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทุกคนต้องขอหนังสือรับรอง Certificate of Entry (COE) สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านระบบ coethailand.mfa.go.th
• รัฐบาลไทยยกเลิกระบบกักตัวฟรีแบบ State Quarantine (SQ) ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงงดการจัดเที่ยวบินพิเศษ (repatriation flight) ผู้ที่ประสงค์เดินทางกลับไทย กรุณาดำเนินการขอใบรับรอง Certificate of Entry (COE) ผ่านระบบ coethailand.mfa.go.th โดยจองโรงแรมกักตัว Alternative Quarantine (AQ) แบบจ่ายเงินเอง (ยกเว้นกรณีผู้เข้าร่วม Phuket Sandbox / Samui Plus ที่ต้องจองโรงแรมตามเงื่อนไขของโครงการฯ)
• เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2564 คนไทยใช้เฉพาะ COE ในการเดินทางเข้าประเทศไทย โดยไม่ต้องใช้เอกสาร Fit to Fly และไม่ต้องใช้เอกสารรับรองว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR ยกเว้นคนไทยที่ต้องการเดินทางเข้าไทยภายใต้โครงการ Phuket Sandbox / Samui Plus ที่ต้องใช้ผลตรวจ RT-PCR และหลักฐานการฉีดวัคซีน รวมทั้งคนไทยที่ต้องการกักตัวแบบ AQ จำนวน 7 วัน ต้องใช้หลักฐานการฉีดวัคซีนด้วย หากไม่มีหลักฐานการฉีดวัคซีน ต้องกักตัว 10 วัน
• ขอแนะนำให้ผู้โดยสารทุกคนตรวจโควิดด้วยวิธี RT-PCR ก่อนเดินทางไม่เกิน 72 ชม. เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและของผู้ร่วมเดินทาง ทั้งนี้ สายการบินอาจกำหนดให้ผู้โดยสารใช้ผลตรวจโรคโควิด-19 กรุณาตรวจสอบกับสายการบินโดยตรง / คนต่างชาติ ไม่ต้อง แสดงเอกสาร Fit to Fly แต่ให้แสดงเฉพาะเอกสารรับรองว่าไม่มีเชื้อโรคโควิด โดยวิธี RT-PCR อายุไม่เกิน 72 ชม. (เดิมต้องใช้ทั้ง 2 เอกสาร)